Civil Engineering CMU

รองผู้กำกับป่วยเป็นโรคอาหารเป็นพิษ

รองผู้กำกับ (พ.ต.ต.สกล เพชรัตน์) เป็นชาวใต้ (หรือคนใต้) ที่มาเป็นเขยเชียงใหม่ด้วยคนหนึ่ง บ้านภรรยาของท่านอยู่ย่านสันป่าข่อย แถวสถานอาบอบนวดซายูริ ท่านมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผู้เขียน และเข้ามาอยู่ที่ค่ายฯเพียงคนเดียว เพราะภรรยาท่านเป็นคนค้าขาย

ท่านเป็นคนมีอัธยาศัยดีจึงแวะมาคุยกับผู้เขียนและอาจารย์คนอื่นอยู่เป็นประจำ ชวนไปเที่ยวโน่นเที่ยวนี่อยู่บ่อยๆ

บ่ายวันหนึ่งท่านไปท่านก๋วยเตี๋ยวผัดไทยมาจากร้านค้าแถวนั้น พอตกค่ำได้เรื่องเลย ประมาณ 1 ทุ่มเศษๆทั้งปวดท้อง ท้องเสีย และอาเจียน ผมจึงให้เอารถคณะของเราซึ่งเป็นรถแลนด์โรเวอร์พาท่านไปหาหมอที่โรงพยาบาลอำเภอแม่แตง ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากค่ายตชด.เพียงนิดเดียว

พอไปถึงแผนก OPD (คนไข้นอก) พบพยาบาลมีอายุนั่งอยู่คนเดียวในห้องซึ่งมีแสงไฟเพียงสลัว พอเราถามถึงแพทย์เวร เธอตอบว่าไม่อยู่ (คงจะไปทำคลินิคในตลาดใกล้ๆนั่นเอง) ถามเราว่าคนไข้เป็นอะไร ผมก็เล่าอาการให้พยาบาลซึ่งทำหน้าที่หมอจำเป็นฟัง พอฟังเสร็จเธอก็ให้ยา Lomotil แก้ท้องเสียมาซองหนึ่ง แล้วบอกให้กลับบ้านได้ ถ้าเป็นชาวบ้านทั่วไปคงเชื่อตามนั้นและถูกหามมาส่งโรงพยาบาลสวนดอกในที่สุดเป็นแน่

ผมเห็นท่าไม่ดีทั้งการวินิจฉัยโรคและการสั่งยามาให้คนไข้รับประทาน จึงบอกให้คนขับรถขับไปหาเพื่อน (ร.ศ.นพ.จิรศักดิ์ คำบุญเรือง) ที่บ้านพักในโรงพยาบาลสวนดอกและก็พบพอดี เล่าอาการป่วยของคนไข้ให้ฟัง หมอบอกว่าคนไข้เป็นโรคอาหารเป็นพิษ ไม่ใช่ท้องเสียธรรมดา จึงฉีดยาให้เข็มหนึ่งและให้ยามารับประทาน 2-3 ซอง (โดยไม่คิดตังค์เลยแม้แต่บาทเดียว) แล้วจึงขับกลับมาพักผ่อนที่บ้านของท่านในค่าย และหายสบายดีในอีก 2-3 วันต่อมา

นี้คือตัวอย่างของจรรยาบรรณของหมอที่ดีระดับอาจารย์ของสวนดอก กับหมอเวรที่โรงพยาบาลอำเภอแม่แตง (ซึ่งคงเป็นลูกศิษย์) โดยละหน้าที่ไปทำคลินิคข้างนอกซึ่งต่างกันราวฟ้ากับดิน