การศึกษาการใช้พื้นที่จอดรถบริเวณขอบถนนสายหลักในคูเมืองเชียงใหม่ช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า

โครงการฉบับนี้ศึกษาถึงการใช้พื้นที่จอดรถบริเวณขอบถนนสายหลักในคูเมืองเชียงใหม่ในช่วงเวลาด่วนตอนเช้า โดยการเก็บข้อมูลรถยนต์ในพื้นที่ซึ่งได้แบ่งเป็นเป็นโซน 13โซน โดยใช้วิธีขับรถมอเตอร์ไซค์และเดินบันทึกแผ่นป้ายทะเบียนในช่วงระยะเวลาทุกๆ 15 นาที ในช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 7.00 – 13.00 น. ช่วงเวลาการเก็บข้อมูลทั้งหมด 6 ชั่วโมง โดยข้อมูลที่ได้สามารถนำมาวิเคราะห์หาลักษณะการใช้พื้นที่จอดรถบริเวณถนนสายหลักในคูเมืองเชียงใหม่ เพื่อวิเคราะห์หาค่า ช่วงระยะเวลาที่ใช้ในการจอดรถ (Duration) อัตราการเปลี่ยนช่วงการจอด (Turn Over) การจอดรถผิดระเบียบ ปริมาณการจอดรถสูงสุด  และดัชนีการจอดรด (Parking Index)

จากการวิเคราะห์พื้นที่ทั้ง14โซนสามารถสรุปโดยรวมได้ดังนี้ ปริมาณการจอดรถสูงสุดเท่ากับ 821คันในช่วงเวลา 10.00 – 10.15 น. ในระยะการเก็บข้อมูล15นาที การใช้พื้นที่จอดรถส่วนมากอยู่ในพื้นที่ ร้านค้า ร้านอาหาร วัดเช่น วัดพระสิงห์ วัดเจดีย์หลวง วัดทรายมูลเมืองวัดสำเภาวัดทุงยู วัดชัยพระเกียรติวัดดับภัย โรงเรียนเช่น วิทยาลัยเทคนิค โรงเรียนยุพราชวิทยาลัยโรงเรียนอนุบาลเชียงใหม่ โรงเรียนพุทธิโศภนโรงแรมเช่น โรงแรม บี พี เชียงใหม่ โรงแรมอโนดาตสถานที่ราชการเช่นที่ว่าการอำเภอเมืองหอศิลปวัฒนธรรมเชียงใหม่ อนุสาวรีย์สามกษัตริย์สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่สวนสาธารณะหนองบวกหาดธนาคาร ซึ่งส่วนมากจะเป็นสถานที่สำคัญทางเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว การศึกษา ศาสนา ส่วนพื้นที่บ้าน ชุมชน และพื้นที่ว่างปริมาณการจอดรถจะมีอยู่บ้างแต่ไม่มากระยะเวลาการจอดรถเฉลี่ย (Duration) ของรถยนต์มีค่าเท่ากับ 83นาที/คันในช่วงระยะเวลาการเก็บข้อมูล 6 ชั่วโมง ระยะเวลาการจอดรถของพื้นที่ส่วนมากมีค่าประมาณ15 – 75 นาทีและมีการจอดช่วง 360 นาทีแต่ช่วงระยะเวลาอื่นปริมาณการจอดรถยังไม่มาก อัตราการเปลี่ยนแปลงช่วงการจอด (Turn Over)ของพื้นที่จอดรถมีค่าเท่ากับ 0.20 คัน/พื้นที่คูเมืองทั้งหมดที่ในช่วงระยะเวลาการเก็บข้อมูล 6 ชั่วโมง จำนวนรถที่จอดในพื้นที่ห้ามจอดเท่ากับ 252คันคิดเป็น 10%ของจำนวนรถที่จอดทั้งหมด เปอร์เซ็นต์การใช้พื้นที่จอดรถสูงสุด (Parking Index) มีค่าอยู่ที่ 81.5 %ในช่วงระยะเวลาการเก็บข้อมูล 6 ชั่วโมง

จากข้อมูลที่ได้สามารถสรุปว่าปริมาณพื้นที่จอดรถในพื้นที่คูเมืองเชียงใหม่ในช่วงเวลา 7.00 – 13.00 ในวันปกติยังมีเพียงพอต่อความต้องการ แต่ในอนาคตอาจมีปัญหาการขาดแคลนขึ้นได้เนื่องจากค่าเปอร์เซ็นต์การใช้พื้นที่จอดรถสูงสุด (Parking Index) มีค่าสูง